ความหลากหลายทางชีวภาพ

 
แนวทางการจัดการและแนวปฏิบัติ
 
การดำเนินการของบริษัท เพื่อคงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพ มีแนวทางการดำเนินงานที่สอดคล้องทั่วกันทั้งองค์กรตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจ โดยเป็นไปตามนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการไม่ตัดไม้ทำลายป่าตามกรอบแนวทาง ดังนี้
 
 
 
บริษัทให้ความสำคัญกับการออกแบบและการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ในทุกขั้นตอน จึงดำเนินการด้วยความตระหนักถึงผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินการตามกฎระเบียบ กฎหมาย และมาตรการป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟูตามรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดและรัดกุม มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพเข้ามาใช้ในกระบวนการดำเนินงาน และมีมาตรการติดตามตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อบรรเทาผลกระทบและหลีกเลี่ยงผลกระทบรุนแรงต่อความหลากหลายทางชีวภาพ

ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้มีส่วนได้เสีย
 
บริษัทในฐานะผู้รับสัมปทานระบบขนส่งที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางพิเศษและระบบราง ซึ่งมีพื้นที่การให้บริการอยู่ในเขตเมืองและปริมณฑล โดยบริษัทรับมอบพื้นที่การให้บริการจากผู้ให้สัมปทานหรือหน่วยงานภาครัฐ การดำเนินงานของบริษัทจึงไม่มีผลกระทบกับพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่คุ้มครอง หรือพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญหรือบริเวณใกล้เคียงมากนัก ซึ่งในช่วงระหว่างก่อสร้างหรือหลังเปิดให้บริการของทางพิเศษและระบบราง บริษัทจะมีการดำเนินการตามแผนมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Mitigation Measures and Monitoring Program : EMP) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

อย่างไรก็ดี การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพในภาพรวมอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน เป็นผลให้ต้องเผชิญกับความซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศ และการหยุดชะงักของบริการที่อาจเกิดขึ้น บริษัทจึงมีการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพของธุรกิจ โดยร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทในการดำเนินการ ตามมาตรการข้างต้น ตลอดจนให้การสนับสนุนการปกป้องและคุ้มครองระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิทธิมนุษยชน นอกจากเพื่อความยั่งยืนของบริษัทแล้ว ยังเป็นการร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจชีวภาพและเศรษฐกิจสีเขียว

ความมุ่งมั่น ความท้าทาย และโอกาส
 
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศรวมถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดสิ่งมีชีวิตและทรัพยากรที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ บริษัทจึงดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม มีความมุ่งมั่นในการรักษาเป้าหมายการไม่ก่อให้เกิดความสูญเสียสุทธิ (No Net Loss) ของคุณค่าความหลากหลายทางชีวภาพ ความสมดุลในระบบนิเวศต่าง ๆ และส่งเสริมให้มีการสร้างผลกระทบสุทธิเชิงบวก (Net Positive Impact) ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงดำเนินธุรกิจโดยปราศจากผลกระทบต่อพื้นที่ป่าไม้สุทธิ (No Net Deforestation) ตามนโยบายบริษัท



นโยบายและแนวปฏิบัติด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการไม่ตัดไม้ทำลายป่า

บริษัทประกาศนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการไม่ตัดไม้ทำลายป่า เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับพนักงาน พร้อมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการดำเนินการร่วมกันกับคู่ค้า ผู้รับเหมา ผู้ส่งมอบ คู่ความร่วมมือ และผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจ
 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และการไม่ตัดไม้ทำลายป่า https://www.bemplc.co.th/CorporatePolicy

การดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

บริษัทให้ความสำคัญกับการออกแบบและการก่อสร้างโครงการต่างๆ ในทุกขั้นตอน จึงดำเนินการด้วยความตระหนักถึงผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินการตามกฎระเบียบ กฎหมาย และมาตรการป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟูตามรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดและรัดกุม มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพเข้ามาใช้ในกระบวนการดำเนินงาน และมีมาตรการติดตามตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อบรรเทาและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่รุนแรงต่อความหลากหลายทางชีวภาพ

บริษัทไม่มีการรุกล้ำพื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่ที่มรดกโลกทางธรรมชาติ และพื้นที่คุ้มครอง ตามเงื่อนไขสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature : IUCN) ประเภทที่ 1-4 แต่อย่างใด


แนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

บริษัทมีแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติตามนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการไม่ตัดไม้ทำลายป่า โดยใช้แนวทางบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับชั้น (Mitigation Hierarchy) ได้แก่ หลีกเลี่ยง (Avoid) บรรเทา (Reduce) ปรับปรุง (Regenerate) และฟื้นฟูพื้นที่เสีย (Restore) ในการดำเนินการตามแผนมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามและตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม
 
 
ผลการดำเนินงาน/โครงการที่เกี่ยวข้อง
 
โครงการสะพานข้ามคลองอนุรักษ์ “คลองบางกอกน้อย” 
 
 
ทางพิเศษประจิมรัถยา (ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร) เป็นโครงการทางพิเศษมีรูปแบบก่อสร้างเป็นทางยกระดับ 6 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร ที่มีการก่อสร้างตามมาตรฐานสากล ทั้งในด้านรูปแบบโครงสร้างและด้านวิศวกรรมตามมาตรฐานของ American Association of State Highway & Transportation Officials ของสหรัฐอเมริกา โดยการก่อสร้างทางพิเศษสายหลัก (Mainline) ได้นำเทคโนโลยีรูปแบบโครงสร้างคานรูปกล่อง (Segmental Box Girder) ในการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งเป็นวิธีการประกอบชิ้นส่วนสำเร็จรูป (Segment) ที่ทันสมัยและมีผลกระทบต่อการจราจรพื้นล่างน้อยที่สุด

สำหรับการก่อสร้างในพื้นที่ที่เป็นคลองอนุรักษ์ “คลองบางกอกน้อย”  บริษัทได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมเป็นอย่างดี จึงได้นำเทคโนโลยีการก่อสร้างสะพานแบบคานยื่นสมดุล (Balanced Cantilever) มาใช้ในการก่อสร้างสะพานข้ามคลอง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสำหรับการสร้างสะพานที่มีช่วงถนนยาว และช่วยลดจำนวนเสาตอม่อกลางแม่น้ำและคลอง จึงทำให้สะพานข้ามคลองบางกอกน้อยไม่มีเสาสะพานอยู่ในคลอง ลดผลกระทบด้านการขีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติและลดการรบกวนระบบนิเวศทางน้ำในระยะดำเนินการได้เป็นอย่างดี

โครงการปรับปรุงแก้มลิงคลองซุง


 
บริษัทได้มีการก่อสร้างศูนย์ควบคุมทางพิเศษประจิมรัถยา (ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร)  โดยศูนย์ควบคุมดังกล่าวมีฐานรากอาคารอยู่ในคลองซุง ซึ่งเป็นบริเวณประตูระบายน้ำคลองซุงและเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม “แก้มลิง” ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางซื่อ ซึ่งบริษัทได้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในระหว่างการก่อสร้างและหลังจากเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2559 โดยมีแนวปฏิบัติและมาตรการป้องกันมลภาวะ ตามมาตรฐานข้อบังคับที่กำหนดโดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมบริเวณโดยรอบทางพิเศษ ด้วยการออกแบบปรับปรุงคลองซุงใหม่ ให้มีปริมาตรเก็บกักน้ำสุทธิมากกว่าคลองซุงเดิมและได้มีการก่อสร้างกำแพงกันดิน (Retaining Wall) บริเวณริมคลองซุงเพื่อป้องกันการพังทลายของดินบริเวณริมตลิ่งคลองซุงไม่ให้ส่งผลต่อระบบนิเวศ เนื่องจากปริมาณตะกอนดินที่เพิ่มขึ้นจากการกัดเซาะลงสู่แหล่งน้ำ
 
สะพานลอยเชื่อมระหว่างชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรม


 
ความหลากหลายทางชีวภาพ มีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ วิถีชีวิตและการประกอบอาชีพของชุมชน บริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญนี้ จึงได้พิจารณาบรรเทาผลกระทบจากการสัญจรและการประกอบอาชีพของประชาชนในชุมชนโดยรอบ ภายหลังจากที่บริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการทางพิเศษอุดรรัถยา ซึ่งเป็นโครงสร้างตัดผ่านระหว่างชุมชนที่มีการทำการเกษตรเป็นจำนวนมาก บริษัทได้มีการก่อสร้างสะพานข้ามสำหรับให้ชุมชนและผู้ทำการปศุสัตว์ สามารถนำสัตว์เลี้ยง หรือ โค กระบือ ใช้สัญจรข้ามไป-มา ระหว่างชุมชนเพื่อหาอาหารได้ และยังเป็นการรักษาความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของชุมชนให้คงเดิม
 
พื้นที่สีเขียว


 
บริษัทรักษาสมดุลพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกพรรณไม้หลากหลายชนิดในพื้นที่รอบบริเวณอาคารสำนักงาน ส่งผลให้เกิดการดึงดูดสิ่งมีชีวิตนานาชนิด เช่น นก ผีเสื้อ แมลง กระรอก และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอื่นๆ เข้ามาพึ่งพาอาศัยใช้เป็นแหล่งที่อยู่และแหล่งอาหาร ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ในพื้นที่นี้ช่วยสร้างสมดุลให้ระบบนิเวศภายในพื้นที่ และยังมีบทบาทสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มปริมาณออกซิเจนในอากาศ รวมถึงช่วยลดอุณหภูมิบริเวณรอบๆสำนักงาน อีกทั้ง ยังช่วยให้พนักงานได้รับประโยชน์ทางด้านจิตใจและสุขภาพ โดยพื้นที่ที่มีธรรมชาติเหล่านี้สามารถช่วยลดความเครียด สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ การรักษาความหลากหลายทางชีวภาพผ่านการสร้างพื้นที่สีเขียวโดยรอบสำนักงานจึงเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมของบริษัท และยังเป็นการสร้างระบบนิเวศขนาดเล็กที่ส่งเสริมการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในเขตเมืองอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน คิดเป็นพื้นที่สีเขียวครอบคลุมประมาณ 80% ของพื้นที่โดยรอบอาคารบริหารพระราม 9
 
งานประเพณีชักพระวัดนางชีร่วมกับชุมชน


 
บริษัทร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และชุมชน ร่วมสืบสานวัฒนธรรม "งานแห่และสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ" หรือ "งานประเพณีชักพระ" ของวัดนางชี พระอารามหลวง ซึ่งเป็นประเพณีการแห่พระบรมสารีริกธาตุทางน้ำเก่าแก่ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมากว่า 100 ปี และจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในกรุงเทพมหานครที่ยังคงรักษาแบบแผนประเพณีดั้งเดิมของชุมชนในพื้นที่ โดยขบวนแห้ใช้เรือเป็นพาหนะเพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากวัดนางชี ซึ่งถือเป็นพิธีสำคัญที่สะท้อนถึงการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นและความศรัทธาศาสนาพุทธมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของเมืองและการเปลี่ยนแปลงของเส้นทางคมนาคมส่งผลให้แนวเส้นทางของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่ในแนวเส้นทางผ่านของขบวนเรือแห่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุทางน้ำที่บริเวณสถานีบางไผ่และสถานีบางขุนนนท์ ดังนั้นเพื่อรักษาประเพณีและหลีกเลี่ยงไม่ให้พระบรมสารีริกธาตุต้องลอดใต้สิ่งกีดขวางอันเป็นข้อห้ามในการปฏิบัติตามความเชื่อและแนวปฏิบัติที่สืบทอดกันมา และลดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการแห่ทางน้ำทั้งสองสถานีจึงมีลักษณะโครงสร้างสะพานเหล็กอยู่เหนือทางวิ่งรถไฟฟ้า พร้อมทั้ง "กระเช้าพระธาตุ" และ "ระบบชักรอก" สำหรับร่วมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุผ่านเหนือรางวิ่งและชานชาลารถไฟฟ้าข้ามมาอีกฝั่งแล้วกลับเข้าสู่ขบวนเรือแห่ อันเป็นแนวทางสำคัญในการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันทรงคุณค่าให้คงอยู่ร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวฝั่งธนบุรีอย่างยั่งยืน
 
เราใช้คุ้กกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ bemplc.co.th ของท่านที่ดีกว่าเดิม ในการใช้งานเว็บไซต์ของเรา ถือว่าท่านยอมรับการใช้คุ้กกี้ตามที่ระบุใน นโยบายคุ้กกี้