การเคารพสิทธิมนุษยชน

 
แนวทางการจัดการและแนวปฏิบัติ
 
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญและเคารพต่อสิทธิมนุษยชนของผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า จึงกำหนดนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights Policy) โดยให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ครอบคลุมถึงผู้รับเหมา คู่ค้า และบริษัทร่วมที่เกี่ยวข้องกับบริษัท มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนโดยไม่แบ่งแยกหรือกีดกันด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ สีผิว เพศ ภาษา ศาสนา สังคม ทรัพย์สิน ถิ่นกำเนิด ความคิดเห็นทางการเมือง หรือสถานะอื่น ๆ ตระหนักในสิทธิหน้าที่และความรับผิดชอบของตนเองที่มีต่อสังคมและบุคคลอื่น ต่อต้านการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานทาส และการใช้แรงงานเด็กทุกรูปแบบ ทั้งนี้พนักงานใหม่ทุกคนต้องได้รับการฝึกอบรม และลงนามรับทราบจรรยาบรรณที่ครอบคลุมถึงประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทในการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ และต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้มีส่วนได้เสีย

ในโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลให้ประเด็นสิทธิมนุษยชนมีความซับซ้อนและท้าทายมากยิ่งขึ้น การละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งจากการเลือกปฏิบัติ (Discrimination) และการคุกคาม (Harassment) เป็นสิ่งที่บริษัทมีความเสี่ยง อาจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนได้โดยไม่ได้ตั้งใจ และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง ความเชื่อมั่น หรือรายได้ของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญในการเคารพหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและบรรเทาความเสี่ยงจากเหตุอันไม่พึงประสงค์ต่อผู้มีส่วนได้เสียและกลุ่มที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่น เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เพื่อเสริมสร้างการให้บริการที่ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม  ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการภายในบริษัทตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า

ความมุ่งมั่น ความท้าทาย และโอกาส
 
บริษัทมุ่งมั่นเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนและปฏิบัติตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights: UDHR) ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact : UNGC) และปฏิญญาว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labor Organization : ILO)  และส่งเสริมการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม ปราศจากการเลือกปฏิบัติ และให้อิสรภาพในการแสดงออกทางความคิดและความรู้สึก รวมถึงมีการออกแบบระบบการขนส่งที่เป็นไปตามหลักสากลเพื่ออำนวยความสะดวกคนทุกกลุ่มให้สามารถเข้าถึงบริการได้ สร้างความพึงพอใจ และสนับสนุนการเข้าถึงบริการของคนทุกกลุ่ม นอกจากนี้บริษัทยังจัดให้มีช่องทางการสื่อสารและการรับข้อร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงมาตรการบรรเทา แก้ไข และเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม

  

นโยบายและแนวปฏิบัติด้านการเคารพสิทธิมนุษยชน

บริษัทประกาศนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยไม่เลือกปฏิบัติ ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ สีผิว เพศ เพศสภาพ กลุ่มเปราะบาง หรือความพิการ ภาษา ศาสนา สังคม ทรัพย์สิน ถิ่นกำเนิด ความคิดเห็นทางการเมือง หรือสถานะอื่นๆ โดยยึดมั่นตามมาตรฐานสากล เช่น ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UDHR) และหลักการชี้แนะของสหประชาชาติ (UNGP) ในการปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจ
 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน https://www.bemplc.co.th/CorporatePolicy 
 
กระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน

บริษัทได้ดำเนินการตามกระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence : HRDD) และจัดให้มีช่องทางการสื่อสารและการรับข้อร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งกำหนดมาตรการบรรเทา แก้ไข และเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม
 
การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน

บริษัทได้กำหนดเกณฑ์เพื่อใช้สำหรับวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญของผู้มีส่วนได้เสีย จากระดับความสนใจในการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียต่อบริษัท และระดับผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัทต่อผู้มีส่วนได้เสีย และได้กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่มีความสำคัญต่อบริษัท 4 อันดับแรก ได้แก่ 1. ลูกค้า 2. พนักงาน 3. สังคมและชุมชน และ 4. คู่ค้า
 

 
บริษัทได้ประเมินประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานและพิจารณากำหนดมาตรการควบคุม และมาตรการบรรเทาผลกระทบที่มีอยู่ในปัจจุบันหรือที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงพัฒนามาตรการเพื่อลดโอกาสการเกิดหรือความรุนแรงและผลกระทบของประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนดังกล่าวครอบคลุม 100% ของธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทมีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่คุณค่า ทั้งนี้ บริษัทได้ประเมินและระบุความเสี่ยงที่สำคัญจำนวน 5 ข้อ จากทั้งหมด 35 ข้อ ดังนี้ ข้อ 11 สิทธิความเป็นส่วนตัว ข้อ 19 สิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น เข้าถึงข้อมูล และแสดงออก ข้อ 21 สิทธิในเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคมเพื่อปกป้องประโยชน์ของตน ข้อ 24 สิทธิในการทำงาน และข้อ 28 สิทธิด้านสุขภาพ


 
บริษัทได้มีการจัดลำดับความเสี่ยง โดยพิจารณาเกณฑ์ระดับความรุนแรงของผลกระทบและระดับโอกาสที่จะเกิดผลกระทบเป็น 5 ระดับ ได้แก่ สูงมาก สูง ปานกลาง ต่ำ และต่ำมาก และใช้แผนที่ความเสี่ยงจำแนกออกเป็นความเสี่ยง 4 ระดับ ได้แก่ สูงมาก สูง ปานกลาง และต่ำ
 
การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
 

 



การจัดการความเสี่ยง
 
 
 

 

 
ความเท่าเทียมและการเคารพสิทธิมนุษยชนภายในบริษัท
 
บริษัทให้ความสำคัญกับการรักษาและส่งเสริมความหลากหลายในกลุ่มพนักงาน โดยดำเนินตามกฎหมายแรงงานและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัดและไม่สนับสนุนกิจการที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนทุกรูปแบบ ซึ่งแนวปฏิบัติดังกล่าวได้กำหนดไว้ในจรรยาบรรณบริษัท (Code of Conduct) ภายใต้หัวข้อความรับผิดชอบต่อผู้บริหารและพนักงาน ซึ่งกล่าวถึงการจ้างงานอย่างเป็นธรรม การปฏิบัติงานที่เท่าเทียมกัน ไม่กระทำการซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติในทุกด้าน เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ถิ่นกำเนิด เพศ อายุ ชนชั้น การศึกษา ความเห็นทางการเมือง ตลอดจนไม่จำกัดบุคคลพิการหรือสูงอายุ จากความหลากหลายนี้จะช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางด้านความคิด วัฒนธรรม มุมมองและประสบการณ์ อันจะทำให้ได้องค์ความรู้ (Knowledge Management: KM) ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัท

บริษัทตระหนักถึงการดูแลสุขภาพ ความคุ้มครองเรื่องความพิการและความไม่สมประกอบ โดยมุ่งยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้ดีขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมให้คนพิการได้มีโอกาสแสดงศักยภาพ สร้างรายได้ และพึ่งพาตนเองได้ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 

นอกจากนี้ บริษัทยังคำนึงถึงความหลากหลายในสังคมและสนับสนุนการยอมรับในความหลากหลาย (Diversity & Inclusion) โดยเชื่อว่าความหลากหลายสามารถนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์และก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงเกิดมุมมองที่แตกต่างซึ่งสามารถช่วยพัฒนา หรือแก้ไขปัญหาได้รอบด้านมากขึ้น ดังนั้น บริษัทจึงส่งเสริมให้มีการปฏิบัติต่อพนักงานทุกระดับอย่างเท่าเทียม เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในการทำงาน มีการกำหนดชั่วโมงการทำงานให้สอดคล้องตามมาตรฐานกฎหมายแรงงาน มีการให้ค่าตอบแทนและสวัสดิการอย่างเป็นธรรม และให้สิทธิในการรวมกลุ่มจัดตั้งชมรม

นอกจากนั้น บริษัทให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของพนักงาน โดยจัดสวัสดิการและสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น การจัดให้มีสวัสดิการสมรสพนักงานครอบคลุมทุกเพศ รวมถึงพนักงาน LGBTQIA+ การจัดห้องพักพนักงานทุกพื้นที่ เครื่องแบบพนักงาน สถานที่ออกกำลังกาย ยา และเวชภัณฑ์ เป็นต้น
 
ความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการ

บริษัทมุ่งที่จะส่งมอบบริการที่ดีให้กับผู้ใช้บริการทุกกลุ่มโดยเท่าเทียมกัน เพื่อให้เกิดความเสมอภาคแก่บุคคล ทั้งบุคคลทั่วไป และบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการทุกประเภท โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกในการให้บริการที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ใช้บริการทุกกลุ่มสามารถเข้ามาใช้บริการได้ (Universal Design) ทั้งบริเวณสถานีและขบวนรถไฟฟ้า เช่น ลิฟต์โดยสาร ลิฟต์บันได ทางลาด ที่จอดรถเข็นผู้พิการ บริเวณขบวนรถ ปุ่มเตือนสำหรับผู้พิการทางสายตา จุดรอรถไฟฟ้าสำหรับคนพิการทั้งในสถานีและในขบวนรถไฟฟ้า ห้องน้ำผู้พิการ/ผู้สูงอายุ ที่จอดรถ ป้ายและสัญลักษณ์ รวมถึงการส่งมอบบริการ และการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยจากพนักงานประจำสถานี เพื่อสร้างความประทับใจ มั่นใจให้กับผู้ใช้บริการได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม บริษัทยังได้อนุญาตให้นำสุนัขนำทางของผู้พิการทางสายตาเข้ามาบริเวณสถานี รวมถึงจักรยานหรือพาหนะพับได้ เพื่อส่งเสริมการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ 
 

 
คณะกรรมการสวัสดิการ
 
คณะกรรมการสวัสดิการและการส่งเสริมด้านสิทธิมนุษยชนในองค์กรเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและเป็นธรรมในที่ทำงาน บริษัทได้เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนมีสิทธิสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นคณะกรรมการสวัสดิการ จำนวน 4 คณะ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนพนักงานจากแต่ละสายงานครอบคลุมทุกพื้นที่ คณะกรรมการซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานทั้งหมด เปิดโอกาสให้นายจ้างและลูกจ้างได้หารือร่วมกันในประเด็นเกี่ยวกับสภาพการทำงาน สวัสดิการ และสิทธิแรงงานอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง คณะกรรมการฯ มีบทบาทหลักคือ
 

 
การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนต่อสังคมและชุมชน

บริษัทมีแนวทางในการสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนและสังคม โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายชุมชนที่ได้รับหรืออาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัท อาทิ ชุมชนใกล้ศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า ชุมชนบริเวณรายรอบเส้นทางทางพิเศษและรถไฟฟ้า โดยแบ่งเป็น 3 TIER ได้แก่
  • TIER 1 ชุมชนอ่อนไหว ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท
  • TIER 2 ชุมชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ หรืออาจได้รับผลกระทบในอนาคต
  • TIER 3 ชุมชนรายรอบเส้นทางทางพิเศษและรถไฟฟ้า
ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดแผนการสำรวจความต้องการและความคาดหวัง รวมถึงผลกระทบที่ได้รับของชุมชนและสังคม ผ่านกระบวนการสำรวจข้อกังวลของชุมชนและสังคมที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากการดำเนินงานของบริษัท โดยดำเนินการผ่านหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียน ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการรับเรื่องร้องเรียน และส่วนธุรการสัมพันธ์ที่ลงพื้นที่เพื่อสำรวจปัญหาและข้อเสนอแนะจากชุมชนและสังคม เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาแนวทางแก้ไข ปรับปรุงมาตรการให้เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนทั้งทางตรงและทางอ้อม

ช่องทางร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน

บริษัทได้จัดให้มีช่องทางร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน และข้อเสนอแนะที่เกี่ยวกับประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนจากผู้มีส่วนได้เสีย โดยเมื่อได้รับเรื่อง จะมีการส่งเรื่องไปยังหน่วยงานผู้รับผิดชอบพร้อมกำหนดระยะเวลาการดำเนินการ ทั้งนี้ บริษัทมีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยโดยปกปิดชื่อผู้ร้องเรียนและผู้แจ้งเบาะแส รวมถึงมีการตรวจสอบ ติดตาม กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน และดำเนินการแก้ไขเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ข้อบังคับของบริษัท โดยสามารถร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
 

 
การสอบสวนและพิจารณาข้อร้องทุกข์ และการยุติข้อร้องทุกข์

บริษัทมุ่งมั่นในการปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยให้ความสำคัญและหลักความเป็นธรรมสำหรับพนักงานและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย จึงได้กำหนดกระบวนการรับเรื่องร้องทุกข์ จะต้องมีการชี้แจงให้ผู้ร้องเรียนทราบภายใน 15 วัน หลังจากได้รับเรื่อง หากยังไม่ได้รับคำชี้แจง ผู้ร้องเรียนสามารถร้องทุกข์ในเรื่องเดิมได้ นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ และยังให้หลักประกันแก่ผู้ร้องเรียนและผู้เกี่ยวข้องว่าการร้องทุกข์ดังกล่าวจะเป็นข้อมูลที่เป็นความลับ เพื่อให้ทุกคนสามารถแสดงออกถึงความคิดเห็นและข้อกังวลได้อย่างมั่นใจ โดยไม่มีความกังวลว่าจะได้รับผลกระทบใดๆ และจะไม่เป็นเหตุให้พนักงานถูกเลิกจ้าง ลงโทษ (กรณีที่ผู้ร้องเรียนเป็นพนักงาน) หรือถูกดำเนินการใดๆ ที่จะเป็นผลร้ายแรง

มาตรการคุ้มครองผู้ร้องเรียนหรือผู้ที่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบจะได้รับคุ้มครองตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
  • ผู้ร้องเรียนหรือผู้ที่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริง สามารถเลือกที่จะไม่เปิดเผยตนเองได้หากเห็นว่าการเปิดเผยนั้นจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย หรือเกิดความเสียหายใดๆ
  • ผู้ร้องเรียนหรือผู้ที่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริง บริษัทจะไม่เปิดเผยชื่อ-สกุล ที่อยู่ ภาพ หรือข้อมูลอื่นใดที่สามารถระบุตัวผู้แจ้งได้
  • ผู้รับข้อร้องเรียนต้องเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นความลับ และจะเปิดเผยเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และความเสียหายของผู้ร้องเรียนหรือผู้ที่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริง แหล่งที่มาของข้อมูล หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้หากเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีแนวโน้มที่จะเกิดความเดือดร้อนเสียหายหรือความไม่ปลอดภัย ให้กำหนดมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม
  • ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจะได้รับการบรรเทาความเสียหายด้วยกระบวนการที่มีความเหมาะสม และเป็นธรรม

การแก้ไขและเยียวยา

บริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินการลดความเสี่ยงการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้น ผ่านการประเมินความเสี่ยงในระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อระบุสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่คุณค่า พร้อมกับการจัดทำมาตรการป้องกันและบรรเทาความเสี่ยง โดยมีการทบทวนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในกรณีที่การดำเนินงานของบริษัทมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้น บริษัทจะให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นและสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาข้อสรุปในการเยียวยาผู้ถูกละเมิดอย่างเหมาะสม เป็นธรรม และสอดคล้องกับข้อกฎหมาย
 
 
เราใช้คุ้กกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ bemplc.co.th ของท่านที่ดีกว่าเดิม ในการใช้งานเว็บไซต์ของเรา ถือว่าท่านยอมรับการใช้คุ้กกี้ตามที่ระบุใน นโยบายคุ้กกี้